การทำอิ๊กซี่ (ICSI) คือเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ เป็นการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย หรือที่เรียกว่า “การทำเด็กหลอดแก้ว” การทำอิ๊กซี่ (ICSI) ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อมาแก้ปัญหาที่การทำเด็กหลอดแก้วแบบ IVF ไม่สามารถทำได้ เช่น ผู้ชายที่เป็นหมัน น้ำเชื้อน้อย สเปิร์มไม่แข็งแรง หรือ ผู้หญิงที่มีปัญหาที่มดลูก ตัดปีกมดลูก ท่อนำไข่ตีบ ตัน คนที่อายุเยอะ คนที่มีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น คนที่มีกลุ่มอาการถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ (PCOS) เป็นต้น
         อาการและปัจจัยเหล่านี้ ล้วนส่งผลให้เกิดภาวะการมีบุตรยากได้ทั้งสิ้น ซึ่งการทำเด็กหลอดแก้วแบบอิ๊กซี่ (ICSI) เป็นวิธีที่จะช่วยเพิ่มโอกาสการปฏิสนธิและทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้สูงกว่าวิธีอื่น
         โดยในกระบวนการทำอิ๊กซี่ นักวิทย์ฯ จะคัดไข่ 1 ใบ และอสุจิ 1 ตัว ที่แข็งแรงและสมบูรณ์ที่สุดมาผสมกัน ด้วยการใช้เข็มเจาะ และฉีดอสุจิเข้าไปที่เนื้อไข่โดยตรงเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิจนกลายเป็นตัวอ่อน แล้วจึงนำกลับไปในโพรงมดลูก ทำให้ ICSI มีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าวิธีอื่นๆ อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องของการมีบุตรยากของคู่สมรสที่ลองมาแล้วหลายวิธีแต่ไม่สำเร็จ ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

1.     คู่สมรสที่ไม่ประสบความสำเร็จในการปฏิสนธิตามธรรมชาติ (ภาวะมีบุตรยาก)
2.     ฝ่ายชายมีน้ำเชื้อ ที่อ่อนแอมากๆ ทั้งทางด้านรูปร่างของน้ำเชื้อ ความสามารถในการเคลื่อนที่ รวมไปถึงจำนวนของน้ำเชื้อ
3.     ฝ่ายชายที่เป็นหมันหรือทำหมัน แต่ยังคงมีการสร้างน้ำเชื้อ และสามารถนำน้ำเชื้อออกมาได้จากวิธีการผ่าตัด เช่น การทำ PESA, TESE เป็นต้น
4.     ฝ่ายหญิงมีความผิดปกติของท่อนำไข่ที่ตีบหรือตันทั้งสองข้าง
5.     ฝ่ายหญิงมีภาวะตกไข่ผิดปกติ
6.     ผู้ที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม
7.     คู่สมรสที่เคยไม่ประสบความสำเร็จในการปฏิสนธินอกร่างกายด้วยวิธี IVF
8.     คู่สมรสที่ต้องการตรวจคัดกรองโรคทางพันธุกรรมด้วยวิธี NGS

1.     เป็นวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยาก ที่มีโอกาสตั้งครรภ์สำเร็จสูงที่สุด เมื่อเทียบกับวิธีการรักษาอื่นๆ
2.     ลดความเสี่ยงที่ทารกจะมีความผิดปกติ (เช่น ดาวน์ซินโดรม ธาลัสซีเมีย เป็นต้น)
3.     ใช้รักษาผู้ป่วยได้ทุกกลุ่มอายุ โดยเฉพาะผู้หญิงในกลุ่มเสี่ยงภาวะมีบุตรยาก อายุเฉลี่ย 35ปีขึ้นไป
4.     ช่วยให้ผู้ป่วยตั้งครรภ์ที่มีความสมบูรณ์ได้ แม้ผู้ป่วยจะมีอายุมากแล้ว
5.     เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์สำเร็จ กับผู้ที่เคยรักษาวิธีอื่นแล้วไม่สำเร็จ