gaziantep escort
gaziantep escort
gaziantep escort
gaziantep escort

IVF / ICSI

การรักษาด้วยเทคนิคของเด็กหลอดแก้ว IVF

การปฏิสนธินอกร่างกาย (IN VITRO FERTILIZATION)

คือการนำไข่และอสุจิมาผสมให้เกิดการปฏิสนธินอกร่างกายเป็นตัวอ่อนในห้องปฏิบัติการ หลังจากนั้นจึงนำตัวอ่อนที่เกิดขึ้นใส่กลับเข้าโพรงมดลูกของฝ่ายหญิง เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ โดยมีหลักการ คือ การกระตุ้นไข่ ติดตามการเจริญเติบโตของไข่ และเก็บไข่ หลังจากนั้นนำไข่มาผสมกับ เชื้ออสุจิในห้องทดลอง เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิ จากนั้นจึงนำตัวอ่อนที่ได้มาเพาะเลี้ยงต่อจนอายุ 3-5 วัน จึงนำกลับเข้าสู่ร่างกายฝ่ายหญิง เพื่อให้เกิดการฝังตัวและตั้งครรภ์ต่อไป

การทำอิ๊คซี่ ( ICSI – INTRACYTOPLASMIC SPERM INJECTION)

การทำอิ๊คซี่ คือ การฉีดตัวอสุจิเพียงตัวเดียวเข้าไปในไข่ โดยไม่รอให้เกิดการปฏิสนธิกันเอง ทำให้ช่วยเพิ่มอัตราการปฏิสนธิ ส่วนขั้นตอนอื่นเหมือนกับการทำเด็กหลอดแก้ว การทำดังกล่าวต้องทำผ่านผ่านกล้องจุลทรรศน์ชนิดพิเศษที่มี กำลังขยาย 200 – 400 เท่า มีอุปกรณ์เฉพาะเรียกว่า MICROMANIPULATOR ชนิดสามมิติ ไข่จะถูกยึดให้ติดกันอยู่กับที่ด้วยเข็มยึด จากนั้นใช้เข็มดูดอสุจิรอไว้ 1 ตัว เจาะใส่เข้าไปในไข่ ไข่ที่ผ่านการทำอิ๊กซี่แล้วทั้งหมดจะถูกนำมาเลี้ยงไว้เช่นเดียวกับการทำเด็กหลอดแก้ว ถ้ามีการปฏิสนธิและได้ตัวอ่อน แพทย์จะทำการเคลื่อนย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูกต่อไป การเลือกใช้การทำอิ๊กซี่ในรายที่เชื้ออสุจิฝ่ายชายคุณภาพไม่ดีอย่างมากหรือไข่กับเชื้ออสุจิไม่สามารถปฏิสนธิกันเองในหลอดทดลอง เช่น เปลือกไข่หนาเหนียว ในสตรีอายุมาก วิธีนี้ช่วยให้เกิดการปฏิสนธิระหว่างไข่และอสุจิที่ให้ผลสำเร็จสูงมาก อัตราที่ไข่จะมีการปฏิสนธิจากวิธีนี้ สูงถึงร้อยละ 80 แม้ว่าเชื้ออสุจิจะมีน้อยมากและแทบไม่เคลื่อนที่เลย

การรักษาภาวะมีบุตรยากโดยวิธีการฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI)

คือ การฉีดเชื้ออสุจิเข้าไปในโพรงมดลูกโดยตรงโดยใช้ท่อพลาสติกเล็ก ๆ สอดผ่านปากมดลูกแล้วฉีดเชื้ออสุจิเข้าไปในช่วงที่มีหรือใกล้กับเวลาที่มีไข่ตก วิธีนี้จะมีการเตรียมน้ำอสุจิ โดยคัดเอาเฉพาะตัวอสุจิที่ยังมีชีวิตและเคลื่อนที่ได้ดีแล้วนำไปฉีดในโพรงมดลูก โดยที่ตัวอสุจิไม่ต้องว่ายผ่านปากมดลูก ทำให้มีตัวอสุจิที่เคลื่อนไหวจำนวนมาก เข้าไปในโพรงมดลูก และพร้อมที่จะผสมกับไข่ ดังนั้นการทำ IUI (Intrauterine insemination) จึงมักทำกับคู่สมรสที่หาสาเหตุของภาวะมีบุตรยากไม่พบ ฝ่ายชายที่มีเชื้ออสุจิต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการหลั่งอสุจิในช่องคลอด หรือฝ่ายหญิงที่มีปัญหาเรื่องภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis) มีปัญหาเรื่องการตกไข่ เป็นต้น ยกเว้นในกรณีมีการอุดตันของปีกมดลูกทั้งสองข้างหรือเชื้ออสุจิมีคุณภาพต่ำมาก
ขั้นตอนในการเตรียมฝ่ายหญิง
แพทย์จะทำการกระตุ้นรังไข่ให้มีการเจริญเติบโตของฟองไข่ในรอบเดือนนั้นๆ หลายๆ ใบ โดยใช้ยาฉีดหรือยารับประทานซึ่งมักจะเริ่มในวันที่ 3 ของรอบเดือน หลังจากนั้นจะมีการนัดตรวจอัลตราซาวด์เพื่อติดตามดูขนาด จำนวนของฟองไข่ และความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูก เมื่อฟองไข่มีขนาดพอเหมาะ แพทย์จะทำการฉีดยากระตุ้นให้มีการตกไข่ หลังจากนั้นประมาณ 36-40 ชั่วโมงจะเป็นเวลาที่มีการตกไข่ แพทย์จะทำการนัดอีกครั้งเพื่อทำการฉีดเชื้ออสุจิเข้าโพรงมดลูกในวันที่ไข่ตก โดยจะใช้เวลามาพบแพทย์เพียง 3 ครั้งต่อการทำในรอบเท่านั้น
ขั้นตอนในการเตรียมอสุจิของฝ่ายชาย
ฝ่ายชายต้องมาพบแพทย์ในวันที่นัดทำ IUI และจะต้องงดเพศสัมพันธุ์ 2-7 วัน เพื่อเก็บน้ำอสุจิ แล้วนำมาส่งภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญจะนำอสุจิที่ได้มาทำการคัดกรอง เลือกเฉพาะตัวอสุจิที่ยังมีชีวิตและเคลื่อนไหวดี เพื่อให้แพทย์นำมาฉีดกลับเข้าไปในโพรงมดลูก ในขั้นตอนนี้จะใช้เวลาเตรียมประมาณ 1-2 ชั่วโมง
ขั้นตอนการฉีดอสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก
เมื่อเตรียมอสุจิเรียบร้อยก็จะนำเอาน้ำเชื้ออสุจิบรรจุลงในท่อพลาสติกปราศจากเชื้อขนาดเล็ก ๆ แล้วแพทย์จะทำการสอดท่อขนาดเล็กนี้ผ่านปากมดลูกอย่างนุ่มนวล จากนั้นจึงทำการฉีดเชื้ออสุจิเข้าไปในโพรงมดลูก โดยใช้เวลาในการทำไม่กี่นาที ไม่เจ็บ และหลังทำ IUI แล้วท่านสามารถปฏิบัติตัวได้ตามปกติ ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
หลังทำ IUI จะปฏิบัติตัวอย่างไร
  •     หลังฉีดเชื้ออสุจิจะให้นอนพักประมาณ 30 นาทีแล้วให้กลับบ้านได้
  •     งดเพศสัมพันธ์ในวันที่ทำ IUI และหลังจากนั้นสามารถมีเพศสัมพันธุ์ได้ตามปกติ
  •     รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และสามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ
  •     แพทย์จะนัดหมายเพื่อมาตรวจการตั้งครรภ์ภายหลังทำการฉีดอสุจิในระยะ 2 สัปดาห์
อัตราการตั้งครรภ์ภายหลังการฉีดเชื้อผสมเทียมในโพรงมดลูก
โดยทั่วไปแล้วอัตราความสำเร็จของการกระตุ้นให้มีการตกไข่และการทำ IUI อยู่ระหว่าง 10 – 20 เปอร์เซ็นต่อรอบการรักษา ซึ่งมีข้อมูลจากการศึกษาในผู้ที่มีภาวะมีบุตรยากที่ไม่ทราบสาเหตุ พบว่าในการทำ IUI จะมีโอกาสตั้งครรภ์มากกว่าโอกาสตั้งครรภ์โดยรอบธรรมชาติประมาณ 2 เท่า แต่ถ้าทำการ IUI ร่วมกับกระตุ้นรังไข่ด้วยยารับประทานจะโอกาสมากขึ้นประมาณ 3 เท่า และถ้ากระตุ้นรังไข่ด้วยยาฉีดจะโอกาสมากขึ้นเป็น 4-6 เท่าเมื่อเทียบกับรอบธรรมชาติ อัตราการประสบความสำเร็จของการฉีดเชื้อผสมเทียมในโพรงมดลูกจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง คือ
  •     อายุของฝ่ายหญิง
  •     จำนวนไข่ที่สมบูรณ์พอที่จะทำให้เกิดการปฏิสนธิได้
  •     ความเข้มข้นของจำนวนอสุจิที่ใช้ฉีดเข้าไปในโพรงมดลูก และความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูกในวันที่ฉีดอสุจิ
แต่อย่างไรก็ตามแพทย์จะทำการควบคุมปัจจัยดังกล่าวให้เหมาะสมที่สุด เพื่อจะได้มีโอกาสในการตั้งครรภ์สูงสุด การทำ IUI จึงเป็นวิธีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายวิธีหนึ่ง มีอัตราความสำเร็จมากพอสมควร ปลอดภัย และเสียค่าใช้จ่ายไม่มาก แต่หากทำวิธีข้างต้นแล้วฝ่ายหญิงยังไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ แพทย์จะนำเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์วิธีอื่นมาใช้ในการรักษาต่อไป เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF), การทำอิ๊กซี่ (ICSI)